หยางม่านซี: ย้อนเวลาลิขิตรักแม่ลูกแฝด
หากย้อนเวลากลับไปได้ลูกทั้งสองคนคงจะรักและให้ความสำคัญกับเธอในฐานะแม่มากกว่านี้ หากย้อนกลับไปได้เธอจะจงรักกับสามีคนแรก
ผู้เข้าชมรวม
92
ผู้เข้าชมเดือนนี้
19
ผู้เข้าชมรวม
มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ประพันธ์โดย : ใต้เงาจันทรา 月光之下
ติดตามข่าวสารนิยาย : ใต้เงาจันทรา
เสียงร้องระงมของเด็กทั้งสองไม่อาจฉุดรั้งให้ผู้เป็นแม่เปลี่ยนใจหรือสละเวลาหันไปมองแม้แต่เสี้ยวนาทีเธอออกแรงเดินและดึงกระเป๋าใบโตออกจากมือเด็กทั้งสองอย่างเลือดเย็น ทิ้งเด็กน้อยไว้หลังประตูบานนั้นแล้วเดินสู่อ้อมกอดของชายที่เป็นอนาคตอันสดใส บันไดขั้นสำคัญที่จะส่งชีวิตเธอให้พบกับคำว่าความสำเร็จ
แต่คำว่าแม่แม้เธอจะไม่เข้าใจมันดีสักเท่าไรกระนั้นก็ยังส่งเสียเลี้ยงดูเฟยเทียนและเฟยเจินสองฝาแฝดที่เธอมักจะได้ข่าวของพวกเขาประปราย พบกันบ้างเมื่อยามมีเรื่องเดือดร้อนและปัญหาต่างๆ มักจะจบลงด้วยเงินนวนหนึ่งที่ผู้เป็นแม่หยิบยื่นให้ เป็นเช่นนั้นเสมอมากระทั่งเข้าปีที่สิบห้า ซึ่งมันไม่ได้ทำให้ผู้เป็นแม่เกิดความยากลำบากทางการเงินแม้แต่น้อย เพราะนับตั้งแต่ก้าวออกมาจากบ้านหลังนั้นกิจการที่กำลังทำก็รุ่งเรืองถึงขีดสุดแม้จะสะดุดไปบ้างกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถของ หยาง ม่านซี
แต่เหมือนมีเรื่องหนึ่งที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตามเธอไม่อาจเรียกได้ว่าตัวเองประสบความสำเร็จ นั่นคือครอบครัว...
ม่านซีเดินเข้ามาในบ้านที่มืดสนิททั้งหลังไร้เงาของสามีซึ่งมันเป็นเรื่องปกติที่เธอเจอทุกวัน แต่แม่บ้านนี่สิวันนี้ไม่ได้ออกมาต้อนรับหรือช่วยเอากระเป๋าของเธอไปเก็บเหมือนที่ผ่านมา แต่มันก็ยังไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจกระทั่งกระดาษสีขาวถูกพับเหลือเพียงสามส่วนวางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา ม่านซีคลี่มันออกมาอ่านครู่หนึ่งก็ทิ้งมันลงพื้น
“เห้อ...” ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ มันไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่แม่บ้านจะลาออกแต่ยิ่งหลายคนๆ เข้าก็ทำให้ผู้เป็นนายต้องกลับมาสำรวจและแก้ไขปัญหาซึ่งต่อให้จะเพิ่มเงินมากเท่าใดมันก็ไม่พอจะรั้งแม่บ้านพวกนั้นให้อยู่ทำงานได้นานขึ้นกว่าเก่า แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วเพราะมันระบุเอาไว้ในจดหมาย
คุณผู้ชายของบ้านพาผู้หญิงสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาหลายคนมักใส่อารมณ์กับลูกจ้างที่เธอเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายโดยไม่มีความเกรงใจ ซ้ำยังจิกหัวใช้จนลูกจ้างเกินจะทน หากเป็นเมื่อก่อนม่านซีคงจะออกตามหาต้นเหตุแล้วด่าทอหรือไม่ก็พ่นถ้อยคำดูถูกออกไปทว่าตอนนี้เธอกลับหมดแรงที่จะทำอย่างนั้นเสียแล้ว
เมื่ออายุใกล้เลขสี่เรี่ยวแรงที่มีก็เหลือพอแค่ทำงานให้ผ่านไปวันๆ ตอนนี้เธอได้แต่เอนหลังพิงโซฟาอย่างหมดแรง ลูบมือสัมผัสหนังชั้นดีที่ถูกประกอบขึ้นเป็นเครื่องเรือน ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะต้องใช้เวลาเก็บเงินทั้งชีวิตเพื่อให้ได้มันมาผิดกันกับม่านซีที่แค่นั่งเซ็นเอกสารไม่มีแผ่นก็ได้กำไรเล็กๆ น้อยๆ มาปรนเปรอตัวเองให้ลืมทุกข์ลืมเศร้า แต่มันเธอเพิ่งมารู้เดี๋ยวนี้เองว่าข้าวของเครื่องใช้พวกนี้ไม่เคยแทนช่องว่างเล็กๆ ที่อยู่ในใจของตนได้เลย
หากย้อนเวลากลับไปได้ลูกทั้งสองคนคงจะรักและให้ความสำคัญกับเธอในฐานะแม่มากกว่านี้ พวกเขาคงไม่มองว่าพวกเธอเป็นแค่เครื่องผลิตเงินมาแค่นำปัญหามาฝากแล้วจากไปพร้อมกับทางแก้ปัญหาแบบเดิมๆ
หากย้อนกลับไปได้เธอจะจงรักกับสามีคนแรก แม้ฐานะจะเติบโตช้าไปสักนิดแต่ไม่ว่าอย่างไรม่านซีจะเห็นเขากลับมาในทุกวัน อาจมีบ้างที่เขาเป็นคู่คิดในเรื่องง่ายๆ เพราะเธอต้องยอมรับว่าการศึกษาของสามีเก่าไม่ได้สูงมากพอให้คิดอะไรที่เหนือชั้น
นั่นคือสิ่งที่เธอโหยหา คูชีวิตที่เป็นคู่คิดไม่ใช่แค่คู่นอนหรือคนร่วมหารสมบัติซึ่งปัจจุบันเธอคงได้อย่างหลังมาครอบครองแต่สิ่งเหล่านี้ไม่อาจโทษใคร เธอได้แต่ปล่อยความรู้สึกให้ด้านชาจนมันแข็งพอที่จะไหลไปตามคลื่นสังคมจากคนรอบข้างที่ถาโถมเข้ามา การถูกหลายคนซุบซิบนินทาว่าทิ้งสามีเก่าหาสามีใหม่หรือจะเป็นเรื่องที่เธอคือลูกนอกไส้ของคนในตระกูก็ไม่อาจทำร้ายจิตใจของม่านซีได้ เพราะอานุภาพมันน้อยกว่าการที่เธอถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในบ้านหลังนี้
บ้านที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของหญิงสาวแสนทะเยอทะยาน หญิงสาวที่มีฝันขั้นที่สองคือครอบครัวที่สมบรูณ์แต่เธอเชื่อมาตลอดว่าฐานะนั้นจะต้องพร้อมเสียก่อนเพราะได้รับบทเรียนมาจากรักครั้งแรกแล้ว ปัญหาการเงินคือปัญหาที่ขัดขวางความสุข กระทั่งบัดนี้ความจริงบางอย่งเปลี่ยนความคิดเธอไปเล็กน้อย
คนเราไม่สามารถหาความสมบูรณ์พร้อมทุกด้านได้ มันอาจจะต้อเสียสิ่งใดสิ่งหนึ่งแต่สุดท้ายแล้วความสุขแต่ละด้านจะค่อยๆ งอกเงยขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย
ทุกๆ คืนม่านซีมักจะหลับด้วยความเหนื่อยที่สะสมมาตลอดวันกดความเครียดที่สะสมเอาไว้กับตัวเพราะไม่ว่าอย่างไรคงไม่มีใครพร้อมจะฟังปัญหาของเธอ เตียงกว้างๆ นี้มีให้เธอได้นอนเต็มตาหลับได้สบายแต่ไม่ใช่สำหรับใครสักคนได้มานอนข้างๆ ถามคำถามง่ายๆ ซ้ำเดิมทุกวันเช่นว่า สบายดีหรือเปล่า งานที่ทำอยู่ลำบากไหม มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า มันคงไม่ทำให้เธอหายเหนื่อยแต่เธอเชื่อว่ามันจะเป็นแรงที่ชักจูงให้เธออยากกลับบ้านมากกว่าอยากให้แต่ละคืนผ่านไปโดยเร็วเพื่อกลับไปทำงานท่ามกลางผู้คนมากมายที่รู้ดีว่าพยายามจะแทงข้างหลังกันทุกเมื่อ
ผลงานอื่นๆ ของ ใต้เงาจันทรา 月光之下 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ใต้เงาจันทรา 月光之下
ความคิดเห็น